กฎหมายบังคับใช้ : พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ศ. 2550
ความเป็นมา
หลักการและเหตุผล
คณะรัฐมนตรีได้เสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ.
ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติในการประชุมครั้งที่ 6/2549 เมื่อวันพุธที่ 15 พฤศจิกายน
2549 โดยมีหลักการคือ “ให้มีกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์”
เหตุผล
“เนื่องจากในปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็นส่วนสำคัญของการประกอบกิจการและการดำรงชีวิตของมนุษย์
หากมีผู้กระทำด้วยประการใด ๆ
ให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามคำสั่งที่กำหนดไว้หรือทำให้การทำงานผิดพลาดไปจากคำสั่งที่กำหนดไว้หรือวิธีการ ใด ๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทำลายข้อมูลของบุคคลอื่นในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
หรือใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จหรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร
อมก่อให้เกิดความเสียหาย
กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ
รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน
สมควรกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตามพระราชบัญญัตินี้”
ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไว้พิจารณา
และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นคณะหนึ่งประกอบด้วยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับวิชาการคอมพิวเตอร์และกฎหมายเพื่อพิจารณา
คณะกรรมาธิการได้ประชุมพิจารณารวมทั้งสิ้น 27 ครั้ง
และได้เสนอต่อสภานิติบัญญัติเพื่อพิจารณาในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม
2550
และได้มีมติให้ผ่านร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เพื่อให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป ซึ่งต่อมาได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม
128 ตอน 27 ก. ลงวันที่ 18
มิถุนายน 2550 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 19 กรกฎาคม 2550
ฐานความผิดและบทลงโทษสำหรับการกระทำโดยมิชอบ
มาตรา
๕ การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์
มาตรา
๖ การล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึง
มาตรา
๗ การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์
มาตรา
๘ การดักข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
มาตรา
๙ การรบกวนข้อมูลคอมพิวเตอร์
มาตรา
๑๐ การรบกวนระบบคอมพิวเตอร์
มาตรา
๑๑ สแปมเมล์ (Spam Mail)
มาตรา
๑๒ การกระทำความผิดต่อความมั่นคง
มาตรา
๑๓ การจำหน่าย/เผยแพร่ชุดคำสั่งเพื่อใช้กระทำความผิด
มาตรา
๑๔ การปลอมแปลงข้อมูลคอมพิวเตอร์/เผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม
มาตรา
๑๕ ความรับผิดของผู้ให้บริการ
มาตรา
๑๖ การเผยแพร่ภาพจากการตัดต่อ/ดัดแปลง
รวม
๑๒ มาตรา โดยเพิ่มเติม ๑ มาตรา คือ มาตรา ๑๑ อันเกี่ยวเนื่องกับความผิดตามมาตรา ๑๐
การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การเปิดเผยมาตรการป้องกันการเข้าถึง
มาตรา ๖
ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ ถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
มาตรา ๗
ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การพิจารณาฐานความผิด
- การกระทำซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา
7 อาจต้องมีการกระทำความผิดตามมาตรา
5 เสียก่อน
การดักข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
มาตรา ๘
ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์
และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การรบกวนข้อมูลคอมพิวเตอร์
มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง
หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การรบกวนระบบคอมพิวเตอร์
“มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ
ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เหตุผล การกำหนดฐานความผิดคำนึงถึงการก่อให้เกิดการปฏิเสธการให้บริการ
(Denial of Service) เป็นสำคัญ
สแปมเมล์(Spam Mail)
มาตรา ๑๑
ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว
อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข
ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
การกระทำซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง
มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐
(๑)
ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน
ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลังและไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
(๒)
เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ
ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ
หรือการบริการสาธารณะ
หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท
ถ้าการกระทำความผิดตาม
(๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี
เหตุผล กำหนดโทษหนักขึ้นตามความเสียหายที่เกิดขึ้น
การใช้อุปกรณ์/ชุดคำสั่งในทางมิชอบ
มาตรา ๑๓ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา
๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เหตุผล
จำกัดเฉพาะกรณีโปรแกรมคอมพิวเตอร์เท่านั้น
ซึ่งแต่เดิมรวมถึงฮาร์ดแวร์ (อุปกรณ์) ด้วย การนำเข้า/เผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม
มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(๑)
นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
(๒)
นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(๓)
นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ
อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(๔)
นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก
และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(๕)
เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม
(๑) (๒) (๓) หรือ (๔)
“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า
(๑)
ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกัน โดยประการอื่น
โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
(๒)
ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
การกำหนดบทลงโทษผู้ให้บริการ
มาตรา ๑๕
ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน
ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔
เหตุผล ผู้ให้บริการในที่นี้มุ่งประสงค์ถึงเจ้าของเว็บไซต์ซึ่งมีการพิจารณาว่าควรต้องมีหน้าที่ลบเนื้อหาอันไม่เหมาะสมด้วย
การเผยแพร่ภาพซึ่งตัดต่อในลักษณะหมิ่นประมาท
มาตรา ๑๖ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น
และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลง ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด
ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง
หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต
ผู้กระทำไม่มีความผิดความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้
ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์
ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้
และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย
บทกำหนดโทษ
ฐานความผิด
|
โทษจำคุก
|
โทษปรับ
|
มาตรา ๕ เข้าถึงคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
|
ไม่เกิน ๖ เดือน
|
ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท
|
มาตรา ๖ ล่วงรู้มาตรการป้องกัน
|
ไม่เกิน ๑ ปี
|
ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท
|
มาตรา ๗ เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
|
ไม่เกิน ๒ ปี
|
ไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท
|
มาตรา ๘ การดักข้อมูลคอมพิวเตอร์
|
ไม่เกิน ๓ ปี
|
ไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท
|
มาตรา ๙ การรบกวนข้อมูลคอมพิวเตอร์
|
ไม่เกิน ๕ ปี
|
ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
|
มาตรา ๑๐ การรบกวนระบบคอมพิวเตอร์
มาตรา ๑๑ สแปมเมล์
|
ไม่เกิน ๕ ปี
ไม่มี
|
ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
|
มาตรา ๑๒ การกระทำต่อความมั่นคง
(๑) ก่อความเสียหายแก่ข้อมูลคอมพิวเตอร์
(๒) กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ/เศรษฐกิจวรรคท้าย
เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต
|
ไม่เกิน ๑๐ ปี
๓ ปี ถึง ๑๕ ปี
๑๐ ปี ถึง ๒๐
ปี
|
+
ไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
๖๐,๐๐๐-๓๐๐,๐๐๐ บาท
ไม่มี
|
มาตรา ๑๓ การจำหน่าย/เผยแพร่ชุดคำสั่ง
|
ไม่เกิน ๑ ปี
|
ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท
|
มาตรา ๑๔ การเผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม
|
ไม่เกิน ๕ ปี
|
ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
|
มาตรา ๑๕ ความรับผิดของ ISP
|
ไม่เกิน ๕ ปี
|
ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
|
มาตรา ๑๖ การตัดต่อภาพผู้อื่น ถ้าสุจริต ไม่มีความผิด
|
ไม่เกิน ๓ ปี
|
ไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น